แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 51
1
ไอเดียสร้างสรรค์ที่จะสร้างอาชีพ ทำให้ร้านอาหารของคุณโดดเด่นสะดุดตา เรียกลูกค้าในตลาด

การเปิดร้านขายอาหารในตลาดที่คึกคักอาจเป็นทั้งเรื่องน่าตื่นเต้นและความท้าทาย ด้วยร้านค้ามากมายที่นำเสนออาหารอร่อยๆ กุญแจสู่ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่รสชาติที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีการดึงดูดความสนใจของร้านด้วย การจัดวางสินค้าที่ออกแบบมาอย่างดีและสะดุดตาสามารถดึงดูดลูกค้าให้แวะเวียนมาสำรวจ และในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อ

ในโลกของการแข่งขันทางธุรกิจอาหารในตลาด การทำให้ร้านของคุณโดดเด่นและดึงดูดลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การสร้างร้านที่สะดุดตานอกจากจะช่วยให้ลูกค้าหาง่ายแล้ว ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์และคุณภาพของร้านได้อีกด้วย นี่คือไอเดียดีๆ ที่จะช่วยให้ร้านขายอาหารของคุณโดดเด่นและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

1. ใช้ป้ายที่สดใสและน่าดึงดูด
ป้ายร้านของคุณคือสิ่งแรกที่ลูกค้ามองเห็น เลือกสีที่โดดเด่น ตัวอักษรที่ชัดเจน และดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่น่าจดจำ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อร้านและอาหารพิเศษของคุณอ่านง่ายจากระยะไกล การเพิ่มแท็กไลน์สนุกๆ หรือเมนูกระดานดำพร้อมภาพวาดที่สร้างสรรค์ ก็จะช่วยให้ร้านของคุณดูเป็นมิตรและเข้าถึงได้ง่ายเช่นกัน

2. จัดแสดงอาหารด้วยสายตา
คนเรามักมองอาหารด้วยตาเป็นอันดับแรก จัดวางอาหารของคุณให้สวยงามสะดุดตาด้วยแสงไฟที่เหมาะสม เพื่อให้อาหารดูสดใหม่และน่ารับประทาน ตู้โชว์แบบใส จานที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ และตัวอย่างอาหารที่จัดวางไว้ด้านหน้า จะช่วยให้ลูกค้าเห็นสิ่งที่คุณนำเสนอได้ทันที

3. เพิ่มการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์
การตกแต่งสามารถสะท้อนถึงธีมอาหารหรือบุคลิกของคุณได้ ตัวอย่างเช่น แผงขายอาหารริมทางของไทยอาจใช้ตะกร้าไม้ไผ่ โคมไฟ หรือต้นไม้เขตร้อน แผงขายอาหารว่างสไตล์โมเดิร์นอาจเลือกการตกแต่งแบบมินิมอลพร้อมไฟ LED เป้าหมายคือการสร้างบรรยากาศที่เข้ากับอาหารของคุณและทำให้แผงขายอาหารน่าจดจำ

4. รักษาความสะอาดและเป็นระเบียบ
ไม่ว่าการออกแบบของคุณจะสร้างสรรค์แค่ไหน ความสะอาดคือสิ่งที่สร้างความไว้วางใจอย่างแท้จริง จัดพื้นที่ทำงานให้เป็นระเบียบ จัดวางอุปกรณ์ให้เหมาะสม และซ่อนขยะให้พ้นมือเด็ก แผงขายของที่เป็นระเบียบเรียบร้อยแสดงถึงความเป็นมืออาชีพและกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยในการรับประทานอาหารของคุณ

5. เสนอประสบการณ์แบบโต้ตอบ
ลูกค้าชอบที่จะรู้สึกมีส่วนร่วม ลองพิจารณาการสาธิตการทำอาหารสดๆ การย่างไฟ หรือการเตรียมอาหารต่อหน้าพวกเขา ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิง แต่ยังพิสูจน์ถึงความสดใหม่และคุณภาพอีกด้วย

6. ใช้กลิ่นหอมเป็นเครื่องมือทางการตลาด
กลิ่นอาหารเป็นหนึ่งในวิธีที่ทรงพลังที่สุดในการดึงดูดผู้คน จัดพื้นที่ทำอาหารของคุณให้กลิ่นหอมอร่อยฟุ้งกระจายไปในฝูงชน ตัวอย่างเช่น การย่าง ทอด หรืออบใกล้ขอบร้านย่อมดึงดูดลูกค้าที่อยากรู้อยากเห็นได้

7. ให้สัมผัสที่สบาย
แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น การจัดที่นั่งในร่ม ผ้าเช็ดปากฟรี หรือเครื่องดื่มเย็นๆ ก็สามารถทำให้ร้านของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะอยู่นานขึ้น เพลิดเพลินกับอาหาร และบอกต่อ

8. สร้างเอกลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง
คิดให้ไกลกว่าแค่การขายอาหาร แต่จงขายเรื่องราวด้วยการใช้สี โลโก้ และบรรจุภัณฑ์ที่สม่ำเสมอเพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย เอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์จะช่วยให้ร้านของคุณโดดเด่น และลูกค้าจะจดจำคุณได้แม้หลังจากออกจากตลาดไปแล้ว

ในตลาดที่คึกคัก ไม่ใช่แค่อาหารอร่อยๆ แต่ความโดดเด่นของร้านก็ต้องการมากกว่านั้น การผสมผสานการตกแต่งที่สร้างสรรค์ การจัดการที่ดี และการสร้างแบรนด์ที่น่าจดจำ จะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีได้ อย่าลืมว่าผู้คนมักจะเลือกร้านที่ดูน่าเข้า มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน และให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือ ด้วยไอเดียเหล่านี้ คุณสามารถเปลี่ยนร้านของคุณให้กลายเป็นสถานที่ห้ามพลาดในตลาดได้

การสร้างร้านอาหารให้โดดเด่นต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์และการใส่ใจในทุกรายละเอียด ลองเริ่มจากการปรับเปลี่ยนบางจุดที่ทำได้ง่าย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ คุณจะพบว่าการลงทุนในเรื่องเหล่านี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและช่วยให้ร้านของคุณประสบความสำเร็จในระยะยาวได้


2
การจัดฟันเด็ก กับ การจัดฟันตอนโต ต่างกันอย่างไร

การเข้ารับการจัดฟัน ถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่ง ที่ช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้แทบจะทุกกรณี แต่การจัดฟันนั้น ก็มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันที่สวมใส่เครื่องมือแบบติดแน่น การจัดฟันแบบใส การจัดฟันแบบเร็ว ซึ่งการจัดฟันในรูปแบบต่างๆที่กล่าวมานั้น ก็จะมีข้อแตกต่างกันออกไป มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และแก้ไขปัญหาได้แตกต่างกัน เช่นเดียวกับการจัดฟันในเด็กและการจัดฟันในผู้ใหญ่ แน่นอนว่าก็จะมีความแตกต่างกัน เพราะการจัดฟันในเด็กจะมีการใช้เครื่องมือที่แตกต่างกัน

หลายคนเคยจัดฟันในตอนเด็กและอาจจะละเลยในการสวมใส่เครื่องมือที่ต้องใส่หลังการจัดฟัน เพื่อช่วยคงสภาพฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม พอโตมาก็อาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมา จนต้องเข้ารับการจัดฟันอีกครั้ง ก็จะเห็นในข้อแตกต่างระหว่างการจัดฟันในเด็กกับการจัดฟันตอนโต และวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อแตกต่างของการจัดฟันในเด็กและการจัดฟันตอนโต ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร เผื่อพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็อาจจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจ และจะได้เห็นข้อแตกต่างจากการจัดฟันตอนโต

ต้องบอกก่อนว่า การจัดฟันในเด็ก ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยจะมีความจำเป็นมากเท่าไหร่ แต่การที่เราปลูกฝังหรือส่งเสริมบุตรหลานของท่านในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีสัญญาณสุขภาพช่องปากและฟันที่มีความผิดปกติของการขึ้นของฟัน หรือแม้กระทั่งการที่บุตรหลานของท่านมีพฤติกรรมการดูดนิ้ว จนอาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟัน ต้องบอกว่า การจัดฟันในเด็ก สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เพราะการจัดฟันในเด็กนั้น สามารถเริ่มจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 7-15 ปี เพราะในวัยนี้ ฟันน้ำนมจะหลุดออกหมดแล้ว และฟันแท้ก็ขึ้นครบแล้ว

ซึ่งการจัดฟันในเด็ก ถือว่าเป็นประโยชน์ นอกจากจะทำให้เด็กมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามตั้งแต่เด็กแล้ว ยังสามารถทำให้เด็กมีรอยยิ้มได้อย่างมั่นใจและยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กได้หลายอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ เมื่อมีฟันเรียงสวย ไม่ซ้อนเก เด็กก็จะแปรงฟันได้ง่ายขึ้น สำหรับการจัดฟันตอนโตนั้น ถือว่าเป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมมาก เพราะผู้ใหญ่บางคนก็มีปัญหาเกี่ยวกับฟันที่มีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นฟันห่าง ฟันซ้อน ฟันเก ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลิกภาพ การรับประทานอาหาร ซึ่งอาจจะทำให้การบดเคี้ยวอาหารนั้น ไม่ดีเท่าที่ควร และยังส่งผลต่อการทำความสะอาดช่องปากและฟันด้วย ถ้าหากเราทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดี ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาช่องปากตามมาได้ จึงเลือกใช้วิธีการเข้ารับการจัดฟัน เพื่อที่จะช่วยแก้ไขปัญหาฟัน

แต่การจัดฟันสำหรับผู้ใหญ่ ก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า การจัดฟันในผู้ใหญ่อาจจะช้ากว่าการจัดฟันในเด็ก และมีข้อจำกัดมากกว่าเด็ก เนื่องจากเด็กอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี การเคลื่อนฟันในเด็กเลยมักง่ายกว่า มีผลแทรกซ้อนน้อยกว่า ต่างกับการจัดฟันในผู้ใหญ่ที่ร่างกายเริ่มมีความเสื่อมถอย แต่อย่างไรก็ตาม ทันตแพทย์ก็จะต้องดูความเหมาะสม ตามภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย

ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก กับ การจัดฟันตอนโต นั้น ก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของ ข้อจำกัดในเรื่องของอายุ สภาพของร่างกาย อัตราการเคลื่อนของฟัน รวมไปถึงการตอบสนองต่อการรักษา แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้เช่นเดียวกัน  หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟัน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่คลินิก ทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และจะช่วยแก้ไขปัญหาฟันของท่านได้อย่างตรงจุดและถูกต้อง เพราะทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี อยากให้มีรอยยิ้มที่สดใส มั่นใจ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

3
จัดฟันบางนา: วิธีการประเมินฟัน ก่อนเข้ารับการ จัดฟันแบบใส Invisalign

การจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการวางแผนการรักษาของทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา เป็นการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่มีข้อดีมากมาย สะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน จัดฟันแบบที่สามารถมองเห็นเครื่องมือการจัดฟันได้ยาก ถือว่าเป็นธรรมชาติมากกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป ที่มีเหล็กจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก

การจัดฟันแบบใส Invisalign เป็นที่นิยมในหมู่ดารา นักแสดง หรือผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ เช่น พิธีกรหรือผู้ประกาศข่าว เพราะการจัดฟันแบบใส จะช่วยให้เสริมบุคลิกภาพ เพราะสามารถมองเห็นเครื่องมือการจัดฟันได้ยาก รวมไปถึงไม่ส่วผลต่อการพูดคุยอีกด้วย เหมือนกันการใส่เหล็กจัดฟันที่จะทำให้เกิดปัญหาพูดไม่ชัด ซึ่งทำให้เสียความมั่นใจ

สำหรับการประเมินฟัน ก่อนเข้ารับการรักษาปัญหาฟันด้วยการจัดฟันแบบใส Invisalign จะทำการประเมินโดยทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา และทันตแพทย์จะต้องได้รับการผ่านอบรมการจัดฟันแบบใส Invisalign และได้รับการรองรับจากอเมริกาให้ทำการจัดฟันแบบใส Invisalign ได้ การประเมินฟันในการจัดฟันแบบใส

ทันตแพทย์จะทำการประเมินฟันในกรณี ข้อแรกการเคลื่อนหมุนของฟัน ก็คือฟันบนกับฟันล่างไม่สบกันเมื่อขบฟัน ฟันสบไขว้ คือการที่ฟันล่างซี่หนึ่งคร่อมฟันบน ฟันซ้อน ก็คือ เมื่อมีฟันมากจนเกิดพื้นที่ของขากรรไกรทำให้ฟันเกิดการเรียงตัวไม่ตรงตำแหน่ง ปัญหาการที่ฟันล่างคร่อมฟันบน ฟันสบลึก คือการที่ฟันบนยื่นคร่อมฟันล่าง และกรณีสุดท้าย ฟันห่าง ก็คือ เมื่อมีช่องว่างระหว่างฟันที่หากกันมากเกินไป ในกรณีที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการประเมินฟันก่อนเข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign

ถึงแม้การประเมินฟันของทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาจะมีความละเอียดเป็นอย่างมาก เพราะการจัดฟันแบบใส ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ทุกกรณี ตั้งแต่ฟันยื่นเล็กน้อยไปจนถึงปัญหาฟันซ้อนแชเกกันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส Invisalign ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ และการจัดฟันแบบใส

จะทำให้ผู้ที่เขา้ารับการรักษามีสุขภาพฟันที่ดี เพราะสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้ขณะแปรงฟัน และสามารถใช้ไหมขัดฟันในการทำความสะอาดฟันได้ด้วย หากต้องการที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถเข้ามาขอคำแนะนำ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ที่คลีนิคที่มีประสบการณ์การจัดฟันมาอย่างยาวนาน

4
หมอออนไลน์: ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease/COPD)

ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง หมายถึงภาวะที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากโรคเรื้อรังของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีอยู่หลายโรค ที่สำคัญได้แก่ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและถุงลมปอดโป่งพอง ทั้ง 2 โรคนี้มักจะพบร่วมกัน ทำให้มีการลดลงของอัตราการไหลเวียนของลมหายใจผ่านปอดขณะหายใจออก จึงมีอากาศคั่งค้างอยู่ในปอดมากกว่าปกติ ประกอบกับการแลกเปลี่ยนอากาศขึ้นได้น้อยกว่าปกติ (มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลง และระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดสูงขึ้น) เป็นเหตุให้ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อยง่าย

หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หมายถึง การอักเสบของเยื่อบุผิวภายในหลอดลม ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องเรื้อรัง เป็นผลมาจากการถูกสารพิษในบุหรี่หรือสิ่งระคายเคือง ทำให้ขนอ่อน (cilia) พิการ ไม่สามารถโบกพัดเพื่อขจัดเชื้อโรคและสิ่งระคายเคืองออกไป เมื่อเยื่อบุหลอดลมเกิดการอักเสบเรื้อรัง ก็จะทำให้เซลล์เยื่อบุหลอดลมมีการเพิ่มจำนวนและหนาตัวขึ้น รวมทั้งต่อมเมือก (mucous glands) บวมโตและหลั่งเมือก (เสมหะ) ออกมากกว่าปกติ จนทำให้ช่องทางเดินหายใจแคบลง เกิดภาวะอุดกั้นขึ้น แพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการไอมีเสมหะมากติดต่อกันทุกวันปีละมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี

ถุงลมปอดโป่งพอง (ถุงลมพอง ก็เรียก) หมายถึง ภาวะพิการอย่างถาวรของถุงลมในปอด ปกติถุงลมอยู่ปลายสุดของปอด ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนล้าน ๆ ถุง เป็นถุงอากาศเล็ก ๆ มีหลอดเลือดหุ้มอยู่โดยรอบ เป็นที่ซึ่งเกิดการแลกเปลี่ยนอากาศ กล่าวคือ ก๊าชออกซิเจนในถุงลมซึมผ่านผนังถุงลมและหลอดเลือดเข้าไปในกระแสเลือดและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระแสเลือด ซึมกลับออกมาในถุงลม ถุงลมที่ปกติจะมีผนังที่ยืดหยุ่น ทำให้ถุงลมหดและขยายตัวได้คล้ายฟองน้ำ ซึ่งช่วยให้การแลกเปลี่ยนอากาศเป็นไปอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมปอดโป่งพอง จะมีผนังถุงลมที่เสียความยืดหยุ่นและเปราะง่าย ทำให้ถุงลมสูญเสียหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนอากาศ นอกจากนี้ผนังของถุงลมที่เปราะยังมีการแตกทะลุ ทำให้ถุงลมขนาดเล็ก ๆ หลาย ๆ อันรวมตัวเป็นถุงลมที่โป่งพองและพิการ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ จำนวนพื้นผิวของถุงลมที่ยังทำหน้าที่ได้ทั้งหมดลดน้อยลงกว่าปกติ ทำให้ออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง เกิดอาการเหนื่อยหอบง่าย

ทั้ง 2 โรคนี้มักจะเกิดร่วมกัน จนบางครั้งแยกกันไม่ออก พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หลอดลมอักเสบเรื้อรังจะพบมากในช่วงอายุ 30-60 ปี ส่วนถุงลมปอดโป่งพองพบมากในช่วงอายุ 45-65 ปี ส่วนใหญ่จะมีประวัติสูบบุหรี่จัด (มากกว่าวันละ 20 มวน) มานานเป็น 10-20 ปีขึ้นไป หรือไม่ก็มีประวัติอยู่ในที่ที่มีอากาศเสีย สูดควันเป็นประจำ หรือมีอาชีพทำงานในโรงงาน หรือเหมืองแร่ที่หายใจเอาสารระคายเคืองเข้าไปเป็นประจำ

ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง,หลอดลมอักเสบเรื้อรัง


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากสารพิษในบุหรี่ที่สูบเข้าไปทำลายเยื่อบุหลอดลมและถุงลมในปอด ซึ่งค่อย ๆ เกิดขึ้น และลุกลามรุนแรงขึ้นอย่างช้า ๆ และในที่สุดเกิดความพิการอย่างถาวรดังกล่าวข้างต้น (พบว่าประมาณร้อยละ 15-20 ของผู้ที่สูบบุหรี่จัดจะเกิดภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง)

ส่วนน้อยอาจเกิดจากมลพิษในอากาศ (เช่น ฝุ่น สารเคมี) จากการประกอบอาชีพอย่างต่อเนื่อง และอาจเสี่ยงมากขึ้น เมื่อมีการสูบบุหรี่ร่วมด้วย   

ในบางพื้นที่ (เช่น เขตเขาทางภาคเหนือ) พบว่าเกิดจากการใช้ฟืนหุงต้มหรือก่อไฟภายในบ้านที่ขาดการถ่ายเทอากาศ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยสูดควันอยู่ประจำจนเป็นพิษต่อทางเดินหายใจ

ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหืด มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังมากกว่าคนปกติ และการสูบบุหรี่ยิ่งทำให้เสี่ยงมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าอาจเกิดจากภาวะพร่องสารต้านทริปซิน (alpha1-antitrypsin ซึ่งเป็นโปรตีนป้องกันไม่ให้ถุงลมปอดถูกสารพิษทำลาย) ภาวะนี้พบได้น้อย สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ และมักเกิดอาการในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 40-50 ปี

อาการ

ระยะที่เริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (อาจเริ่มในช่วงอายุ 30-40 ปี) จะมีอาการไอมีเสมหะเรื้อรังทุกวันเป็นแรมเดือนแรมปี ผู้ป่วยมักจะไอหรือขากเสมหะในคอหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเป็นประจำ จนนึกว่าเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้ใส่ใจดูแลรักษา ต่อมาจะไอถี่ขึ้นตลอดทั้งวัน และมีเสมหะจำนวนมาก ในช่วงแรกมีลักษณะเป็นสีขาว ต่อมาอาจเป็นสีเหลืองหรือเขียว มีไข้ขึ้นหรือหอบเหนื่อยเป็นครั้งคราวจากโรคติดเชื้อแทรกซ้อน

ถ้าไม่หยุดสูบบุหรี่ จนมีโรคถุงลมปอดโป่งพองตามมา (อาจใช้เวลามากกว่า 10 ปี จากระยะเริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง) นอกจากอาการไอเรื้อรังแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่ายเฉพาะเวลาออกแรงมาก หรือเมื่อมีโรคติดเชื้อแทรก (เช่น มีไข้ ไอมีเสมหะเหลืองหรือเขียว) อาการหอบเหนื่อยจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้น แม้แต่เวลาพูดหรือเดินหรือทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย จนในที่สุด (อาจใช้เวลา 5-10 ปีขึ้นไป) แม้แต่อยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกหอบเหนื่อย ทั้งนี้เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถหายใจแลกเปลี่ยนอากาศ (ออกซิเจน) ได้เพียงพอต่อการนำไปเลี้ยงร่างกายให้เกิดพลังงาน

ในระยะหลัง ผู้ป่วยมักมีอาการกำเริบหนักเป็นครั้งคราวเมื่อมีการติดเชื้อแทรกซ้อน ทำให้มีไข้และไอมีเสมหะสีเหลืองหรือเขียว หายใจหอบ ตัวเขียว จนต้องเขารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

บางครั้งอาจมีภาวะหัวใจวายแทรกซ้อน

เมื่อเป็นถึงขั้นระยะรุนแรง ผู้ป่วยมักมีอาการเบื่ออาหารและน้ำหนักลด รูปร่างผ่ายยอม และมีอาการเหนื่อยหอบอยู่ตลอดเวลา มีอาการทุกข์ทรมาน และรู้สึกท้อแท้


ภาวะแทรกซ้อน

มักมีการติดเชื้อแทรกซ้อนเป็นครั้งคราว เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ซึ่งจะทำให้มีอาการหอบกำเริบรุนแรง ระยะแรก ๆ ประมาณปีละ 1-2 ครั้ง แต่เมื่อโรคถุงลมปอดโป่งพองเป็นรุนแรงมากขึ้น ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ถี่ขึ้นจนผู้ป่วยอาจต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลบ่อย

ระยะรุนแรง ผู้ป่วยมักมีภาวะการหายใจล้มเหลวเรื้อรัง (chronic respiratory failure) ร่วมด้วย และอาจมีภาวะหัวใจวายแทรกซ้อน มีอาการหอบเหนื่อย นอนราบไม่ได้ หลอดเลือดที่คอโป่ง เท้าบวม ตับโต หัวใจห้องขวาล่างโต เรียกว่า โรคหัวใจเหตุจากปอด (cor pulmonale)

ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ปอดทะลุ จากการที่ถุงลมส่วนนอก (ใกล้เยื่อหุ้มปอด) แตก ไอออกเป็นเลือดจากการอักเสบของหลอดลม ภาวะเม็ดเลือดแดงมาก (polycythemia ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดมีลิ่มเลือด หรือ phrombosis) ไส้เลื่อน กำเริบเนื่องจากอาการไอเรื้อรัง เป็นต้น


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

ในระยะแรก อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

ระยะต่อมาใช้เครื่องฟังตรวจปอดมักได้ยินเสียงอึ๊ด (rhonchi) เสียงกรอบแกรบ (crepitation) เสียงวี้ด (wheezing) และ/หรือเสียงหายใจออกยาว (prolonged expiration) ในรายที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อนมักมีไข้ร่วมด้วย

ในระยะที่เป็นมากขึ้น อาจพบอาการหายใจเร็ว หน้าอกมีอาการเคาะโปร่ง (hyperresonant) และเมื่อใช้เครื่องฟังตรวจปอด จะพบเสียงหายใจค่อย (ฟังไม่ค่อยได้ยิน) เนื่องจากมีอากาศค้างอยู่ในถุงลม และลมหายใจเข้าออกได้น้อย ถ้ามีอากาศค้างอยู่ในถุงลมมาก ก็จะพบหน้าอกมีลักษณะเป็นรูปถังทรงกระบอก เรียกว่า อกถัง หรือ อกโอ่ง (barrel chest)

ในรายที่จำเป็นต้องวินิจฉัยโรคนี้ให้แน่ชัด แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ปอด ตรวจเสมหะ ทำการวัดปริมาตรอากาศหายใจ (spirometry) เพื่อประเมินสมรรถภาพของปอด* ในรายที่เป็นระยะรุนแรงอาจทำการตรวจเลือดประเมินภาวะเม็ดเลือดแดงมาก (polycythemia) ซึ่งอาจพบในผู้ป่วยบางราย ตรวจระดับออกซิเจนในเลือด (ซึ่งจะต่ำกว่าปกติตั้งแต่ระยะแรก ๆ) และคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด (ซึ่งจะสูงกว่าปกติในระยะต่อมา) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น ในรายที่อายุต่ำกว่า 40 ปีอาจตรวจหาระดับสารต้านทริปซินในเลือด

อกโอ่ง

* ดูค่า FEV1 (forced expiratory volume in one second) ซึ่งหมายถึง ปริมาตรอากาศที่หายใจออกใน 1 วินาที และค่า FVC (forced vital capacity) ซึ่งหมายถึง ปริมาตรอากาศที่หายใจออกจนสุดอย่างเต็มที่หนึ่งครั้ง

แพทย์จะประเมินจากค่า FEV1 และ FEV1/FVC (ค่า FEV1 หารด้วยค่า FVC) ซึ่งทั้ง 2 ค่านี้ถ้ายิ่งมีค่าต่ำ ก็ยิ่งบ่งชี้ว่ายิ่งมีความรุนแรง เช่น ในรายที่มีภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง มักมีค่า FEV1/ FVC < 70% และมีค่า FEV1 ≥ 80% ของค่ามาตรฐาน (ในรายที่เป็นเล็กน้อย) ระหว่าง 30-80% (ในรายที่เป็นปานกลาง) และ < 30% (ในรายที่เป็นรุนแรง)


การรักษาโดยแพทย์

นอกจากแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยแล้ว แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้ยาบรรเทาตามอาการ เช่น ถ้ามีเสียงวี้ด (wheezing) ให้ยาขยายหลอดลม กลุ่มยากระตุ้นบีตา 2 หรือไอพราโทรเพียมโบรไมด์ชนิดสูด อย่างใดอย่างหนึ่งหรือใช้ร่วมกัน ถ้ามีอาการหอบตอนดึก อาจให้ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์ยาว ในรายที่เป็นรุนแรงมักจะให้สเตียรอยด์ชนิดสูดร่วมกับยาข้างต้น

2. ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เช่น มีไข้หรือมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว ก็จะให้ยาปฏิชีวนะ (เช่น อะม็อกซีซิลลิน, โคอะม็อกซิคลาฟ, อีริโทรไมซิน, ร็อกซิโทรไมซิน, ดอกซีไซคลีน, โคไตรม็อกซาโซล เป็นต้น) นาน 7-10 วัน

3. ในรายที่มีอาการหายใจหอบรุนแรง หรือสงสัยเป็นปอดอักเสบ ปอดทะลุ หรือภาวะหัวใจวาย แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้การรักษาตามสาเหตุที่ตรวจพบ อาจต้องให้ออกซิเจน ใส่ท่อหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจ

ผลการรักษา ขึ้นกับระยะและความรุนแรงของโรค ถ้าเป็นระยะแรก (FEV1 > 50% ของค่ามาตรฐาน) และผู้ป่วยสามารถเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาด ก็มักจะได้ผลดี โรคจะไม่ลุกลามรุนแรงมากขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้ลุกลามจนถึงระยะรุนแรง (สมรรถภาพของปอดลดลงอย่างมากแล้ว คือ FEV1 < 30% ของค่ามาตรฐาน) ก็มักจะเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน (เช่น ภาวะการหายใจล้มเหลว ปอดอักเสบ ปอดทะลุ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอด เป็นต้น) ภายใน 1–5 ปี โดยเฉลี่ยผู้ป่วยทุกระดับของความรุนแรงมีอัตราตายมากกว่าร้อยละ 50 ใน 10 ปีหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยครั้งแรก

การดูแลตนเอง

หากมีอาการไอและเหนื่อยง่ายอย่างเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่สูบบุหรี่ หรืออยู่ในบรรยากาศที่มีฝุ่นควันนานๆ  ควรปรึกษาแพทย์

หากตรวจพบว่าเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือถุงลมปอดโป่งพอง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ที่สำคัญคือ เลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด และหลีกเลี่ยงมลพิษในอากาศ ดื่มน้ำมาก ๆ (วันละ 8-12 แก้ว) เพื่อช่วยขับเสมหะ

2. ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ โดยเรียนรู้วิธีใช้ยาที่ถูกต้อง และติดตามการรักษาตามที่แพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง

3. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย 
    เจ็บหน้าอกมาก หายใจหอบหรือหายใจลำบาก   
    ไอมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว หรือไอเป็นเลือด
    เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
    มีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น นอนราบไม่ได้ (เพราะรู้สึกหายใจลำบาก) หรือเท้าบวม
    ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ 2-3 วันแล้วไม่ดีขึ้น 
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

1. ที่สำคัญคือ การไม่สูบบุหรี่

2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีมลพิษในอากาศ

3. หลีกเลี่ยงการใช้ฟืนก่อไฟภายในบ้านที่ขาดการถ่ายเทอากาศ

4. ถ้าเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคหืด ควรได้รับการรักษาอย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่สูบบุหรี่จัด ควรหมั่นพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเริ่มมีอาการไอบ่อยทุกวันโดยไม่มีสาเหตุอื่นชัดเจน

2. ผู้ที่เริ่มเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรังหรือภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังในระยะแรกเริ่ม ควรเลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด จะช่วยให้อาการไม่ลุกลามมากขึ้น ผู้ป่วยควรติดตามการรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาทางช่วยให้เลิกบุหรี่ ให้ยาบรรเทาตามอาการ ประเมินสมรรถภาพของปอดและภาวะแทรกซ้อนเป็นระยะ ๆ

3. ผู้ป่วยและญาติควรศึกษาให้เข้าใจถึงธรรมชาติของโรคและแนวทางการดูแลรักษา ญาติควรเข้ามามีบทบาทในการให้กำลังใจผู้ป่วย ในการเลิกบุหรี่และการติดตามรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดูแลเรื่องโภชนาการ (ผู้ป่วยระยะรุนแรงมักมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งจะทำให้ซ้ำเติมอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น) การให้ออกซิเจนที่บ้าน (สำหรับผู้ป่วยระยะรุนแรง) การใช้ยารักษาให้ครบถ้วนตามที่แพทย์กำหนด การพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันทีที่สงสัยว่ามีภาวะแทรกซ้อน และการเตรียมพร้อมในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (end of life) ให้มีคุณภาพ ลดความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย และไม่ให้สิ้นเปลืองเกินเหตุ

4. โรคถุงลมปอดโป่งพอง อาจมีอาการหายใจหอบและได้ยินเสียงวี้ดคล้ายโรคหืด แต่ต่างกันตรงที่ถุงลมปอดโป่งพองจะเริ่มมีอาการในคนอายุ 50-60 ปีขึ้นไปที่มีประวัติสูบบุหรี่จัดหรือถูกมลพิษทางอากาศมาเป็นเวลานาน และมีอาการหอบเหนื่อยรุนแรงขึ้นทีละน้อยอย่างช้า ๆ (ใช้เวลานาน 5-10 ปีขึ้นไป) ส่วนโรคหืดมักจะเริ่มเป็นตั้งแต่วัยเด็ก มักมีประวัติโรคหืดหรือโรคภูมิแพ้ในครอบครัว และมีอาการหอบกำเริบเป็นครั้งคราว บางครั้งก็อาจแยกกันไม่ได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบในคนอายุมาก อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 โรคนี้มีแนวทางการดูแลรักษาคล้ายกัน และควรได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์เป็นหลัก

5
หมอประจำบ้าน: โรคพยาธิไส้เดือน (Ascariasis)

โรคพยาธิไส้เดือนเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิไส้เดือน (Ascaris lumbricoides) ซึ่งเป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่ง โดยการกินไข่ที่มีตัวอ่อนของพยาธิไส้เดือน* ระยะติดต่อเข้าไปอยูในร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามอวัยวะที่ตัวพยาธิเข้าไปอาศัยอยู่

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และในเด็กมักมีอาการรุนแรงกว่า เนื่องจากมักจะมีพยาธิในลำไส้เป็นจำนวนมาก

โรคนี้พบมากทางภาคใต้ และอาจพบในภาคอื่น ๆ ได้พอประมาณ

1. พยาธิไส้เดือนตัวเต็มวัย (ตัวแก่) มีรูปร่างคล้ายไส้เดือนสีขาวยาวประมาณ 20-40 ซม. อาศัยอยู่ในลำไส้เล็กของคน ตัวเมียจะออกไข่วันละนับแสนฟอง ซึ่งจะออกมากับอุจจาระ หากคนถ่ายอุจจาระลงพื้นดินหรือในน้ำ ไข่จะอยู่ตามสิ่งแวดล้อม (น้ำ ดิน ทราย ฝุ่นละออง ผักที่ใส่ปุ๋ยทำจากอุจจาระคน)
2. ไข่ที่ไม่ได้รับการผสม แม้คนกินเข้าไปก็ไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
3. ส่วนไข่ที่ได้รับการผสม จะเจริญเป็นตัวอ่อน (ในไข่) ในเวลา 10-21 วันซึ่งเป็นระยะติดต่อ
4. เมื่อคนกินอาหาร ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม หรืออมนิ้วมือที่เปื้อนไข่พยาธิดังกล่าว ก็จะกลืนเอาไข่พยาธิที่มีตัวอ่อนเข้าไปในลำไส้
5. ตัวอ่อนในไข่จะฟักออกมาเกาะอาศัยอยู่ตามลำไส้
6. ตัวอ่อนจะไชทะลุเยื่อเมือกของลำไส้เข้าไปตามระบบไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลืองเข้าสู่ปอด และเจริญต่อไปภายในปอดซึ่งใช้เวลา 10-14 วัน แล้วไชทะลุผ่านผนังถุงลม เคลื่อนตัวขึ้นไปตามหลอดลมจนถึงคอหอย
7. ตัวอ่อนจะถูกกลืนกลับลงไปในหลอดอาหารและลำไส้อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ตัวอ่อนก็จะเจริญเป็นตัวเต็มวัย และอาศัยอยู่ในลำไส้ ซึ่งสามารถมีชีวิตได้นานถึง 1-2 ปี


สาเหตุ

การติดต่อของโรคนี้ เกิดจากการกลืนไข่พยาธิไส้เดือนระยะติดต่อที่ปนเปื้อนอาหาร ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม หรือนิ้วมือ


อาการ

ถ้ามีพยาธิอยู่ในลำไส้จำนวนน้อย มักจะไม่มีอาการอะไร บางรายอาจถ่ายหรืออาเจียนเป็นตัวไส้เดือน

บางรายอาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง โดยมักจะมีอาการหลังกินอาหารสัก 1/2 ชั่วโมง

บางรายอาจแสดงอาการลมพิษเรื้อรัง

ในรายที่มีพยาธิจำนวนมาก เด็กอาจมีอาการผอมแห้งแรงน้อย กินข้าวได้แต่ไม่อ้วนขึ้นหรือกลับผอมลง บางรายอาจมีอาการเบื่ออาหาร ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเดิน

บางรายมีลักษณะพุงโรก้นปอด ขาดอาหาร


ภาวะแทรกซ้อน

ในเด็กอาจเกิดภาวะขาดอาหาร (เช่น ขาดสารโปรตีน วิตามินเอ) เนื่องจากพยาธิไส้เดือนแย่งอาหารในลำไส้

บางครั้งพยาธิอาจรวมเป็นกระจุก ทำให้เกิดอาการอุดกั้นของลำไส้ มีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียนรุนแรง และคลำได้ก้อนที่หน้าท้อง

พยาธิตัวอ่อนที่เคลื่อนตัวผ่านปอด ถ้ามีจำนวนมากอาจทำให้เกิดอาการไอหรือปอดอักเสบ

บางครั้งพยาธิตัวแก่อาจเคลื่อนตัวเข้าไปอุดกั้นในท่อน้ำดี ทำให้มีอาการดีซ่าน และถุงน้ำดีอักเสบ, เข้าไปในอุดกั้นในท่อตับอ่อนทำให้ตับอ่อนอักเสบ, เข้าไปในตับทำให้เป็นฝีตับ, เข้าไปในรูของไส้ติ่ง ทำให้ไส้ติ่งอักเสบ

ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงแต่พบได้น้อยมาก ได้แก่ เป็นแผลที่ลำไส้และมีเลือดออกรุนแรง ลำไส้ทะลุ ลำไส้เน่า ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการบอกเล่า หรือสังเกตเห็นตัวพยาธิที่ถ่ายหรืออาเจียนออกมา จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจพบไข่พยาธิไส้เดือนในอุจจาระ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้กินยาฆ่าพยาธิ เช่น มีเบนดาโซล, อัลเบนดาโซล เป็นต้น

2. ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดในรายที่เป็นรุนแรง เช่น ลำไส้อุดกั้น ลำไส้ทะลุ ไส้ติ่งอักเสบ เป็นต้น

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น อาเจียนหรือถ่ายออกมาเป็นตัวพยาธิไส้เดือน, เด็กมีอาการปวดท้อง ท้องเดินบ่อย, เด็กกินอาหารเก่งแต่น้ำหนักไม่ขึ้น หรือผอมแห้งแรงน้อย พุงโรก้นปอด, เป็นลมพิษเรื้อรัง เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคพยาธิไส้เดือน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1-2 สัปดาห์
    มีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียนรุนแรง ตาเหลืองตัวเหลือง หรือถ่ายเป็นเลือด
    มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเดินบ่อย โดยไม่ทราบสาเหตุ
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

    ถ่ายอุจจาระในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ อย่าถ่ายอุจจาระลงพื้นดินหรือแม่น้ำลำคลอง
    ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ก่อนเตรียมอาหารและกินอาหารทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กควรกวดขันให้ล้างมือก่อนกินอาหาร และหลังกลับจากการเล่นที่สนามนอกบ้าน เนื่องเพราะเด็กมักเผลอดูดนิ้วมือเล่น ซึ่งอาจมีไข่พยาธิปนเปื้อนได้
    ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทานทุกครั้ง ถ้าไม่มั่นใจควรกินผักที่ปรุงสุก และกินผลไม้ที่ปอกเปลือก
    ดื่มน้ำสุกหรือน้ำสะอาด และกินอาหารที่ปรุงสุกและร้อน

ข้อแนะนำ

เด็กที่มีอาการปวดท้องหรืออาเจียนบ่อย กินอาหารเก่งแต่น้ำหนักไม่ขึ้น หรือเป็นลมพิษเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน หรือสงสัยว่าอาจเป็นโรคพยาธิไส้เดือน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจดูไข่พยาธิในอุจจาระด้วยกล้องจุลทรรศน์

6
รถรับจ้างขนย้ายบ้าน เมื่อขับรถหลงทาง สิ่งที่ต้องทำหลังทราบว่าหลง คำแนะนำดีดี ของผู้ที่มีประสบการณ์

เคยไหม? ขับรถอยู่ดีๆ เส้นทางที่เคยมั่นใจกลับดูแปลกตาไป แยกที่ควรจะเจอกลับไม่มี ร้านค้าที่จำได้ก็หายไป และจู่ๆ สมองก็ร้องเตือนเสียงดังลั่นในหัวว่า ฉันหลงทางแล้ว แต่อย่าเพิ่งตกใจไปจนมือไม้สั่น หรือเหยียบคันเร่งแบบไร้จุดหมายปลายทาง การหลงทางอาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเครียดเล็กๆ บนท้องถนน แต่หากรับมืออย่างมีสติ แน่นอนว่ามันก็เป็นแค่บททดสอบหนึ่งในทริปของคุณเท่านั้นเองค่ะ และนี่คือ คำแนะนำดีดี ของผู้ที่มีประสบการณ์ รถรับจ้างขอนแก่น และนี่คือสิ่งที่ควรทำ ทันทีหลังรู้ตัวว่าหลงทาง


1. หยุด! ตั้งสติก่อนทำทุกสิ่ง

อย่าให้ความตื่นตระหนกเข้าควบคุมพวงมาลัยของคุณ รถรับจ้างขอนแก่น แนะนำว่าเมื่อรู้ตัวว่าหลงควรหยุดรถในที่ปลอดภัย หายใจเข้าลึกๆ แล้วทบทวนสถานการณ์ คิดให้ได้ก่อนว่าเราหลงทางจริงไหม หรือแค่ถนนเปลี่ยนเพราะการก่อสร้าง ความนิ่งและนึกคิดคือสิ่งที่จะพาคุณกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้ค่ะ


2. มองหาจุดสังเกตที่ชัดเจน

คุณอยู่ที่ไหนตอนนี้? ลองมองไปรอบๆ หาสิ่งที่สะดุดตา เช่น ป้ายถนน อาคารใหญ่ ปั๊มน้ำมัน หรือแม้แต่ต้นไม้ใหญ่ ทุกอย่างอาจเป็นตัวช่วยที่จะช่วยให้คุณย้อนกลับมาได้ และสิ่งสำคัญลองหาชื่อถนน จดชื่อถนนหรือเขตไว้ เผื่อต้องโทรขอความช่วยเหลือ จะได้บอกถูกว่าอยู่จุดไหนค่ะ


3. เปิดแผนที่ดิจิทัลหรือ GPS

ไม่ว่าจะเป็น Google Maps Apple Maps หรือแอปนำทางอื่นๆ ให้เปิดดูทันที หากคุณมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต มันคือเครื่องมือช่วยชีวิตอันดับแรกของคุณค่ะ และที่สำคัญ อย่าลืมตรวจสอบว่าตำแหน่งปัจจุบันของคุณ ถูกต้องหรือไม่ และอย่ากลัวที่จะกดปุ่ม นำทางกลับบ้าน หรือ เส้นทางลัดกลับถนนหลักค่ะ และนี่คือสิ่งที่ บริการรถรับจ้างขนของ ใช้นำทางในการเดินทางค่ะ


4. ถ้าเทคโนโลยีใช้ไม่ได้ ให้ถามคนในพื้นที่

บางครั้ง พื้นที่นั้น อาจไม่มีสัญญาน หรือสัญญาณอ่อน ทำให้แอปงง และนั่นคือเวลาที่ต้องหันไปพึ่งมนุษย์จริงๆ ค่ะ ลองมองหาร้านค้า ป้อมตำรวจ หรือผู้คนที่ดูน่าเชื่อถือ แล้วถามทางอย่างสุภาพ คุณอาจเจอคนใจดีที่พร้อมจะพาคุณกลับเข้าทางหลักค่ะ


5. อย่าขับวนมั่ว! ยิ่งวน ยิ่งหลง

ข้อนี้สำคัญมากค่ะ สำหรับคนที่หลงทาง อย่าขับวนไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ตรงไหน มีแต่จะทำให้คุณหลงมากยิ่งขึ้น เหมือนอยู่ในเขาวงกต รถรับจ้างขอนแก่น แนะนำให้เลือกจุดที่ปลอดภัย หยุดวางแผน และหาทางกลับอย่างมีแบบแผนดีกว่าการขับไปเรื่อย ๆ ค่ะ


6. ส่งพิกัดให้เพื่อนหรือครอบครัว

ถ้าคุณอยู่ในที่เปลี่ยว หรือเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย อย่ารอช้า ส่งตำแหน่งโลเคชันให้ใครสักคนที่คุณไว้ใจไว้ก่อน อาจจะช่วยตามหาคุณได้เร็วขึ้นหากสถานการณ์แย่ลงค่ะ


7. เรียนรู้และจดจำเส้นทางไว้เป็นบทเรียน

เมื่อคุณกลับมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว อย่าลืมย้อนคิด ว่าหลงเพราะอะไร? จำทางผิด หรือพลาดสัญญาณอะไรไป การหลงทางครั้งนี้อาจสอนอะไรบางอย่างกับคุณ และครั้งหน้า คุณอาจจะไม่หลงอีกเลยค่ะ
หลงทางไม่ใช่เรื่องน่าอาย มันคือเรื่องธรรมดาของนักเดินทาง!

ความกลัวและความเครียดคือศัตรูตัวฉกาจในการขับรถหลงทาง แต่สติ การวางแผน และการขอความช่วยเหลือที่ถูกต้องคือกุญแจสำคัญที่จะพาคุณกลับสู่เส้นทางอย่างปลอดภัย เพราะทุกการหลง คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ ครั้งหน้า ถ้าหลงอีก ก็ยิ้มแล้วพูดกับตัวเองว่า ไม่เป็นไร ฉันเอาอยู่ เส้นทางที่ผิด อาจพาเราไปพบสิ่งใหม่ที่ไม่เคยเห็น บางครั้งคุณอาจเจอวิวสวยที่ไม่เคยอยู่ในแผน บางทีคุณอาจได้คุยกับชาวบ้านใจดีที่ไม่มีในรีวิว และบางครั้ง คุณอาจพบตัวเองในมุมใหม่ ที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ในตัวคุณ เพราะฉะนั้น อย่ากลัวการหลงทาง เพียงแค่คุณมี สติ แผน และหัวใจนักเดินทาง ไม่ว่าเส้นทางจะวกวนแค่ไหน คุณก็จะถึงจุดหมายในที่สุดค่ะ

รถรับจ้างขอนแก่น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ได้อ่านไม่มากก็น้อยค่ะ สำหรับใครที่ต้องการให้ รถรับจ้าง ช่วยเหลือ ไม่ว่าจะ ขนของ ย้ายของ หรือรับจ้างทั่วไป พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้การขนย้ายของคุณเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย พร้อมบริการขนย้ายตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยบริการ รถกระบะ รถหกล้อ รถสิบล้อ รับจ้างขนย้ายของ พร้อมบริการเสริมอย่างครบครันค่ะ

7
รถหกล้อรับจ้าง ย้ายบ้าน ขนของหอพัก สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย กับ รถรับจ้างภูเก็ต

ย้ายบ้านหรือขนของหอพัก เป็นเรื่องที่หลายคนต้องเจอ อย่างน้อยล่ะหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน หรือครอบครัวที่ต้องการย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่พักอาศัยที่ดีกว่า แต่เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย เพราะการย้ายบ้านหรือย้ายหอพักไม่ใช่เพียงแค่เก็บของขึ้นรถเท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดมากมายที่ต้องใส่ใจ ตั้งแต่การแพ็กของ การขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ การขนของขึ้น-ลงบันได หรือแม้กระทั่งเรื่องความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง หากเลือกบริการที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความล่าช้า ของเสียหาย หรือเกิดความเครียดโดยไม่จำเป็น

นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนเลือกใช้บริการ รถรับจ้างภูเก็ต เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการให้บริการที่ครบวงจร ใส่ใจทุกรายละเอียด และตอบโจทย์คนที่ต้องการย้ายบ้านหรือขนของหอพักให้เป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยค่ะ


ความสะดวกสบายตั้งแต่เริ่มต้น

สิ่งแรกที่คุณจะได้รับจากขนส่ง คือความสะดวกตั้งแต่การติดต่อจองรถ ทีมงานพร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับประเภทรถที่เหมาะสมกับการขนของ ไม่ว่าจะเป็น รถกระบะตู้ทึบ รถหกล้อ หรือรถสิบล้อ ขึ้นอยู่กับปริมาณและลักษณะของสิ่งของที่คุณต้องการขนย้าย ลูกค้าสามารถโทรสอบถาม พูดคุย และประเมินราคาได้อย่างโปร่งใส ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ ทีมงานยังมีความเชี่ยวชาญในการจัดการของในรถให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้สามารถบรรทุกของได้ครบตามจำนวน ลดการเสียเวลาในการวิ่งหลายรอบ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว

รวดเร็ว ไม่เสียเวลา

ในวันที่ต้องย้ายบ้านหรือย้ายหอพัก สิ่งที่หลายคนอยากได้มากที่สุดคือความ “รวดเร็ว” เพราะการย้ายบ้านมักมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการ เช่น ทำสัญญาเช่าที่ใหม่ ติดต่อเรื่องไฟฟ้า ประปา หรือแม้กระทั่งการจัดของเข้าที่ใหม่ การเสียเวลาระหว่างการขนย้ายจึงไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากเจอ

ทีมงานของ รถรับจ้างภูเก็ต ขึ้นชื่อเรื่องความตรงต่อเวลา มาถึงหน้างานตามนัด และดำเนินการขนย้ายด้วยความคล่องตัว ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน ทำให้สามารถวางแผนการยกของ ขนของ ขึ้น-ลงรถ ได้อย่างเป็นระบบ จึงมั่นใจได้ว่าของทุกชิ้นจะถูกย้ายไปถึงที่ใหม่อย่างรวดเร็วทันใจ


ความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญ

ของทุกชิ้นที่ย้าย ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งของใช้ส่วนตัว ล้วนมีคุณค่าทางใจและทางการเงินทั้งสิ้น การเสียหายแม้เพียงเล็กน้อยก็สร้างความกังวลให้เจ้าของได้ไม่น้อยค่ะ

รถรับจ้างภูเก็ต ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุด ทีมงานจะช่วยแพ็กของที่เปราะบางอย่างดี ใช้ผ้าห่มหรือวัสดุป้องกันรอยในการห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงจัดวางให้แน่นหนาในระหว่างการเดินทาง ทำให้มั่นใจได้ว่าของทุกชิ้นจะถึงปลายทางโดยปลอดภัย


ย้ายหอพักก็ง่าย ไม่ต้องกังวลพื้นที่จำกัด

สำหรับนักศึกษาและวัยทำงานที่อยู่หอพักหรืออพาร์ตเมนต์ จะเจอปัญหาใหญ่คือ “พื้นที่แคบ” ไม่ว่าจะเป็นบันไดสูงและแคบ ทางเดินที่เล็ก หรือการจอดรถที่ไม่สะดวก ซึ่งถ้าขนของเองอาจลำบากและใช้เวลานาน

ทีมงานของขนส่ง มีประสบการณ์ในการขนย้ายหอพักโดยตรง เข้าใจปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี และมีวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม รถรับจ้างพร้อมคนยก จะจัดการให้ทุกขั้นตอน ใช้อุปกรณ์ช่วยยก หรือการวางแผนเส้นทางล่วงหน้า ทำให้การย้ายหอพักที่ดูวุ่นวาย กลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว


บริการครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

นอกจากการ ขนย้ายของ แล้ว รถรับจ้างภูเก็ต ยังมีบริการเสริมที่ตอบโจทย์ลูกค้า เช่น

    บริการแพ็กกิ้งของก่อนขนย้าย
    บริการยกของโดยทีมงานมืออาชีพ
    บริการรถหลายขนาด เลือกตามความเหมาะสม
    รับย้ายทั้งในภูเก็ตและต่างจังหวัด

ทั้งหมดนี้ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเหนื่อยจัดการเอง เพราะเพียงแค่บอกความต้องการ ทีมงานก็พร้อมจัดการทุกขั้นตอนให้เสร็จสมบูรณ์

ความมั่นใจที่ลูกค้าเลือกใช้ซ้ำ

สิ่งที่ทำให้ รถรับจ้างภูเก็ต แตกต่างจากที่อื่น คือการบริการที่จริงใจและใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยอย่างสุภาพ การให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมา และการรักษาสัญญาตามที่ตกลงไว้ ลูกค้าหลายคนที่เคยใช้บริการแล้ว ต่างกลับมาใช้ซ้ำและบอกต่อให้เพื่อนหรือคนรู้จัก เพราะมั่นใจได้ว่าทุกการย้ายบ้านหรือย้ายหอพักจะเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องปวดหัว

การย้ายบ้านหรือย้ายหอพักอาจเป็นเรื่องที่หลายคนกังวล แต่ถ้าเลือกใช้บริการ รถรับจ้างภูเก็ต ทุกความยุ่งยากจะกลายเป็นความสะดวก คุณจะได้รับการบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย ใส่ใจทุกรายละเอียด ตั้งแต่การแพ็กของ ขนย้าย ไปจนถึงการส่งถึงปลายทางอย่างเรียบร้อย ไม่ว่าคุณจะย้ายใกล้หรือไกล ย้ายเล็กหรือใหญ่ ทีมงานก็พร้อมดูแลให้การย้ายของของคุณเป็นประสบการณ์ที่ง่ายกว่าที่คิด

เพราะการย้ายบ้านหรือย้ายหอพัก ไม่ควรเป็นเรื่องเครียด แต่ควรเป็นก้าวใหม่ที่เริ่มต้นได้อย่างราบรื่น และพร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุกการขนย้ายค่ะ

8
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


9
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ต้องเลือกอะไรบ้างก่อนเข้ารับการรักษา

การจัดฟันแบบใส ถือเป็นนวัตกรรมการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะการจัดฟันแบบใสในรูปแบบนี้มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา ทำให้มีผลการรักษาที่แม่นยำ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้การจัดฟันแบบใสเป็นที่สนใจและได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในกลุ่มดารา นัดแสดง หรือคนที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพชิ่งปากและฟัน และอยากมีบุคลิกภาพที่ดี

ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันแบบใสนั้น เป็นการจัดฟันที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้เข้ารับการจัดฟันเลย ทั้งยังสะดวกสบายในเรื่องของการดูแลช่องปากและฟันอีกด้วย หลายคนที่อยากเข้ารับการจัดฟัน คงจะสงสัยว่า ก่อนการเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น เราจะต้องเลือกดูหรือศึกษารายละเอียดในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้การจัดฟันมีผลการรักษาที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง และเป็นไปตามที่เราต้องการ ถึงแม้ว่า การจัดฟันแบบใส เราจะสามารถพูดคุยกับทันตแพทย์และร่วมกันวางแผนการรักษาได้ แต่เราก็ต้องเลือกดูรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพื่อให้เราได้รับการรักษาที่ตรงโจทย์มากที่สุด

วันนี้เรามาจะพูดถึงประเด็นที่ว่า ก่อนการเข้ารับการรักษาผู้เข้ารับการจัดฟัน ควรที่จะศึกษาหรือเลือกดูอะไรบ้างก่อนเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการจัดฟัน ให้สามารถแก้ไขปัญหาของผู้เข้ารับการจัดฟันได้อย่างตรงจุด และสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะได้ใช้งานฟันของเราได้อย่างเต็มที่ และไม่เกิดปัญหาในอนาคต

สำหรับการเข้ารับการจัดฟันแบบใส เราอยากให้คุณเลือกดูโปรแกรมการรักษาหรือรูปแบบการจัดฟันแบบใส ให้เหมาะสมกับปัญหามากที่สุด แต่ในข้อนี้ ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาจะแนะนำให้อีกทีก่อนเข้ารับการรักษา ซึ่งต้องอธิบายก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น มีด้วยกันหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการรักษาและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป  เพราะมีจำนวนเครื่องมือและลูกเล่นในการใช้งาน ซึ่งแน่นอนมันมีผลต่อการรักษาเคสยาก-ง่าย และยังมีราคาที่แตกต่างกันด้วย ต่อมาเราควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานตามหลักทันตกรรม อย่างที่คลินิกของเรามีมาตรฐานตามหลักสากล และยังมีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันแบบใส ทั้งยังได้รับการรับรองสูงสุดจาก INVISALIGN ให้สามารถให้บริการการจัดฟันแบบใสได้อย่างถูกต้อง มีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือด้วย ในเรื่องต่อมาก็คือเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการจัดฟันแบบใส

ซึ่งหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันแบบใส INVISALIGN มีราคาค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร และทราบดีอยู่แล้วว่าปัญหาฟันของผู้เข้ารับการรักษานั้น มีความยากหรือง่าย ดังนั้น ผู้เข้ารับการรักษาอย่าฝืนใช้งบประมาณต่ำเกินไป แต่ทันตแพทย์ก็จะเลือกรูปแบบการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับกับเราให้อยู่ดี ในเรื่องนี้ทางคลินิกของเราก็มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของค่าใช้จ่าย ผู้เข้ารับการรักษาสามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดได้ เพื่อที่จะได้สะดวกและได้รับการรักษาที่ต่อเนื่อง เพื่อให้คุณได้มีฟันที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ 

ดังนั้น ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่าย และในเรื่องของรูปแบบการรักษา เรามีทันตแพทย์ที่จะช่วยวิเคราะห์ถึงปัญหาของรูปร่างฟัน และเลือกรูปแบบการจัดฟันแบบใส ให้คุณอย่างเหมาะสมมากที่สุด

หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือข้อมูลจากทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชายในเรื่องของการจัดฟัน และได้รับการรับรองสูงสุดจาก INVISALIGN เพื่อให้สามารถรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้เรามีสถานทันตกรรมที่มีความสะอาด น่าเชื่อถือ สามารถให้บริการลูกค้าด้วยความปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะเราใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของคุณ อยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและทำให้เรามีสุขภาพที่ดีด้วย

10
จัดฟันบางนา: จัดฟันแบบใส มองไม่เห็นแต่สัมผัสความสวยได้ทันทีที่ยิ้ม

หลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟันและลักษณะฟัน แน่นอนว่าจะไม่มีความมั่นใจเวลาที่ยิ้มหรือเข้าสังคม นี่ถือว่าเป็นข้อเสียที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพ ทำให้เราไม่มีความมั่นใจ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลิกภาพหรือการรับประทานอาหาร รวมไปถึงการทำความสะอาดช่องปากและฟัน ที่อาจจะทำได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟัน

ดังนั้น วิธีการรักษาที่ดีที่สุดก็คือการเข้ารับการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด การเข้ารับการจัดฟันนั้นถือว่าเป็นวิธีการที่แก้ไขปัญหาได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่บางคน เมื่อเข้ารับการจัดฟันแล้วก็ยังทำให้มีปัญหาในเรื่องของความมั่นใจ นั่นก็คือเวลายิ้มอาจจะเห็นเหล็กจัดฟันที่ติดอยู่ภายในช่องปาก ทำให้รู้สึกเสียความมั่นใจ เสียบุคลิกภาพ แต่การจัดฟันนั้นก็มีอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยทำให้เรามีรอยยิ้มได้อย่างมั่นใจ

นั่นก็คือการเข้ารับการจัดฟันแบบใส ที่มีข้อดีและจุดเด่นที่น่าสนใจก็คือสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ ขณะรับประทานอาหารหรือขณะแปรงฟัน และเมื่อใส่เครื่องมือการจัดฟันก็ทำให้คนอื่นสามารถมองเห็นได้ยากจนแทบแยกไม่ออกเลยว่า เรากำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ ซึ่งจะทำให้เรายิ้มได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น แต่ข้อดีในเรื่องนี้ เราจะต้องทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาด รวมไปถึงดูแลรักษาความสะอาดของเครื่องมือจัดฟันและต้องมีระเบียบวินัยในการสวมใส่เครื่องมือและ ขณะที่รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มเช่น กาแฟหรือชา เราควรที่จะถอดเครื่องมือออกก่อนรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่ม เพราะอาจจะทำให้สีของเครื่องมือเปลี่ยนไปได้ ส่งผลให้เวลายิ้มอาจจะทำให้ฟันมีสีที่เปลี่ยนไปด้วย

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเข้ารับการจัดฟันแบบใส จะทำให้เรายิ้มได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่าการจัดฟันแบบใส ช่วยทำให้เรามีความมั่นใจได้ในเรื่องของรอยยิ้ม ซึ่งวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการจัดฟันแบบใสทำให้คนอื่นมองไม่เห็นแต่สามารถสัมผัสความสวยของรอยยิ้มได้ทันทีที่พบเห็น เพราะการที่เรายิ้มและไม่มีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก จะช่วยทำให้เรามีความมั่นใจและคนที่ได้พบเห็นรอยยิ้มของเรา ก็จะรู้สึกประทับใจตามไปด้วย ดังนั้น การจัดฟันแบบใสจึงมีข้อดีและจุดเด่น ก็คือ ช่วยเสริมสร้างในเรื่องของบุคลิกภาพ ทำให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น มีรอยยิ้มที่สวยงามสดใส และยังช่วยส่งเสริมในด้านของสุขภาพช่องปากและฟันของเราด้วย เพราะเครื่องมือการจัดฟันที่สามารถถอดออกได้ขณะทำความสะอาดช่องปากและฟัน จะช่วยทำให้เราสามารถแปรงฟันได้อย่างเต็มที่และแปรงฟันได้ทุกซอกทุกมุมโดยไม่มีอุปสรรคในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน 

ดังนั้น  การเข้ารับการจัดฟันแบบใสจะช่วยทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งการจัดฟันในรูปแบบนี้ ส่งผลกระทบน้อยมากกับการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องมีวินัยในการสวมใส่เครื่องมือตามที่ทันตแพทย์แนะนำ นั่นก็คือ ควรสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันวันละ 20-22 ชั่วโมงเพื่อให้เครื่องมือการจัดฟันสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าจะทำให้ผลการรักษามีความแม่นยำตามไปด้วยนั่นเอง

สำหรับใครที่สนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใสด้วยระบบคอมพิวเตอร์และสามารถวางแผนการรักษาร่วมกับทันตแพทย์ได้ ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันแบบใสและได้รับการรับรองสูงสุดจาก invisalign ทำให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้อย่างปลอดภั ยมีมาตรฐานตามหลักสากล ทั้งยังมีทันตแพทย์คอยให้คำแนะนำและวิธีการดูแลตัวเอง ภายหลังจากการเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและช่วยทำให้เรามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้น

11
รถขนของไปต่างจังหวัด ขนย้ายของชั้นบนไม่มีลิฟท์ คิดค่าคนยกแพงไหม

หลายคนที่เคยย้ายหอพัก คอนโด หรือบ้านเช่า คงเคยเจอกับปัญหา ห้องอยู่ชั้นสูงแต่ไม่มีลิฟท์ ใช่ไหมค่ะ? ไม่ว่าจะเป็นชั้น 3 ชั้น 4 หรือบางตึกสูงถึงชั้น 5-6 ต้องบอกว่าแค่เดินขึ้นไปตัวเปล่าก็แทบหอบแล้ว นี่ยังต้องขนตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือโซฟาขึ้นไปอีก จะให้ยกเองก็คงไม่ไหวแน่ๆ จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะจ้าง รถรับจ้างพร้อมคนยกของ ซึ่งสะดวกกว่าเยอะ แต่ก็ตามมาด้วยคำถามยอดฮิตว่า “ถ้าย้ายของขึ้นชั้นบนที่ไม่มีลิฟท์ ค่าคนยกแพงไหม?” วันนี้ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา จะพาคุณลูกค้าไปหาคำตอบกันค่ะ มาเริ่มกันเลยรถรับจ้างขนของ


ทำไมการขนของขึ้นชั้นสูงถึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม?

แน่นอนว่าการขนย้ายของหนักๆ อย่างตู้เย็น เครื่องซักผ้า โต๊ะทำงาน หรือที่นอน ขึ้นบันไดแต่ละชั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ประการแรกจำเป็นต้องใช้แรงงานหลายคน จึงจะช่วยกันประคองเพื่อให้ของไม่กระแทกผนัง ไม่ตกบันได และไม่ทำให้บาดเจ็บ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา ต้องบอกว่าการยกขึ้นทีละขั้นบันไดนั้นใช้ทั้งแรงกายและความชำนาญค่อนข้างเยอะค่ะ ดังนั้นผู้ให้บริการจึงมักคิด ค่าบริการเพิ่มเติมตามจำนวนชั้น เพื่อสะท้อนถึงความเหนื่อยและความเสี่ยงที่มากขึ้นนั่นเอง


โดยทั่วไปคิดราคาแบบไหน?

    จำนวนชั้น ส่วนมากจะบวกเพิ่มตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป เช่น เพิ่ม 100-200 บาทต่อชั้น ต่อคนยก
    น้ำหนักและขนาดของของ ของเล็กๆ เบาๆ เช่นกล่องเสื้อผ้า หรือของใช้ส่วนตัว จะไม่คิดเพิ่มมาก แต่ถ้าเป็นตู้เย็น 2 ประตู โต๊ะไม้จริง หรือโซฟาขนาดใหญ่ ราคาจะสูงกว่า
    จำนวนคนยก ปกติจะมีขั้นต่ำ 2 คน แต่หากของเยอะหรือใหญ่ ต้องเพิ่มคนยก 3-4 คน ค่าบริการก็เพิ่มตามจำนวน
    ระยะทางจากรถถึงตัวตึก ถ้ารถจอดไกล ต้องหอบของเดินเข้าไปอีก ค่าบริการก็อาจบวกเพิ่มเล็กน้อย

ตัวอย่างเช่น การยกตู้เย็นขึ้นชั้น 4 โดยไม่มีลิฟท์ อาจต้องใช้คนยก 2 คน คิดเพิ่มคนละ 400-500 บาท รวมเป็น 800-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับบริษัท แต่ถ้าเป็นเพียงกล่องของไม่หนักมาก ก็อาจคิดเพิ่มเพียง 100-200 บาทต่อชั้นเท่านั้นค่ะ


ค่าคนยกแพงไหม? มองอีกมุมคุ้มค่ากว่า

หลายคนอาจรู้สึกว่า รถรับจ้างพร้อมคนยก ค่าคนยกแพง แต่ถ้าลองเปรียบเทียบกับการยกเอง จะเห็นว่า ความคุ้มค่า อยู่ตรงนี้เลยค่ะ

    ประหยัดแรง – ของชิ้นใหญ่ๆ หนักๆ ถ้ายกเองอาจเสี่ยงบาดเจ็บ กล้ามเนื้อฉีก หรือหลังเคล็ดได้
    ปลอดภัยกว่า – คนยกที่มีประสบการณ์จะรู้วิธีจับ ประคอง และวางของโดยไม่ทำให้ผนังหรือของเสียหาย
    ประหยัดเวลา – ของเยอะๆ ถ้ายกกันเองอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่ทีมงานมืออาชีพช่วยกันไม่กี่รอบก็เสร็จ
    คุ้มค่าในระยะยาว – ลองคิดดูครับ ถ้าตู้เย็นหล่นพังขึ้นมา ค่าซ่อมอาจแพงกว่าค่าจ้างยกอีกหลายเท่า!


เคล็ดลับประหยัดค่าคนยก

ถ้าอยากให้ค่าใช้จ่ายไม่บานปลาย รถรับจ้างฉะเชิงเทรา มีเทคนิคเล็กๆ ที่ช่วยได้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลงค่ะ

    แยกชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ เช่น ถอดขาโต๊ะ แยกชั้นวางของออก จะทำให้ยกง่ายขึ้น และไม่คิดเพิ่มมาก
    แพ็คของให้เป็นระเบียบ ใส่กล่องให้แน่นๆ ไม่แตกกระจาย จะช่วยให้คนยกทำงานเร็วขึ้น
    คัดของไม่จำเป็นออก ขนขึ้นไปเฉพาะของที่ต้องใช้จริง ของที่ไม่ใช้แล้วขายหรือบริจาคไป จะช่วยลดจำนวนรอบการยก
    แจ้งรายละเอียดล่วงหน้า บอกบริษัทให้ชัดว่าตึกไม่มีลิฟท์ อยู่ชั้นกี่ บันไดแคบไหม ของชิ้นใหญ่มีอะไรบ้าง เพื่อให้เขาประเมินราคาล่วงหน้าได้ตรงความเป็นจริงที่สุดค่ะ จะได้ไม่บานปลายทีหลัง

การขนย้ายของขึ้นชั้นบนโดยไม่มีลิฟท์ แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจริง แต่ถ้าคิดถึงความปลอดภัย ความสะดวก และการประหยัดเวลาแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ ค่าใช้จ่ายปกติไม่ถึงกับแพงเวอร์ แต่เป็นการจ่ายเพื่อความสบายใจและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง การเลือกใช้ รถรับจ้างพร้อมทีมยกมืออาชีพ จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด และช่วยให้การ ย้ายหอ ย้ายบ้าน หรือย้ายคอนโด กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ

รถรับจ้างฉะเชิงเทรา พร้อมเป็นตัวช่วยที่ช่วยให้การขนย้ายของคุณเป็นเรื่องง่าย ขนย้ายปลอดภัย พร้อมทั้งสะดวกสบายอีกด้วยค่ะ มีบริการครบวงจรพร้อมคนยกของ ไม่ว่าจะเป็น รถกระบะ รถสี่ล้อใหญ่ รถหกล้อ รถสิบล้อรับจ้าง ครบครัน รับรองว่าตรงความต้องการอย่างแน่นอนค่ะ

12
รถรับจ้างขนของลาดพร้าว ราคาประหยัด กระบะรับจ้าง หกล้อรับจ้าง ย้ายบ้าน ย้ายหอทั่วไป

จะหาบริการ ผู้ให้บริการ รถรับจ้างขนของลาดพร้าวที่ไหนดี ที่ให้บริการงานที่คุณภาพและราคาไม่แพง นี่อาจจะเป็นคำถามที่เราอยากจะสื่อถึง ผู้ต้องการใช้บริการ รถรับจ้างขนของ ว่าการเลือกใช้รถรับจ้างในแต่ละประเภทในแต่ละชนิดนั้น จะต้องมีความแตกต่างในเนื้องาน มีความพินิจพิเคราะห์ การบริการให้ดี ว่าผู้ให้บริการรายนี้ให้บริการรับจ้างขนของดีหรือไม่ ทุกครั้งที่เรามีคำถามในใจว่า รถที่จอดอยู่ริมถนน ที่ติดป้ายว่าบริการรถรับจ้างหรือติดสติ๊กเกอร์ป้ายตามเสาไฟในเขตลาดพร้าว ว่าให้บริการ รถรับจ้าง 4 ล้อ 6 ล้อ 10 ล้อ และรับจ้างขนย้ายทั่วไป นั้น เราไม่รู้ว่ารายไหนจะให้บริการที่ดีจริง เพราะว่ามีการติดป้ายจำนวนเยอะมากเราไม่อาจทราบได้ว่า ด้วยบริการรายนี้น่าเชื่อถือหรือไม่เราจึงต้องมีการศึกษาข้อมูลและรายการตรวจเช็คผู้ให้บริการในแต่ละรายว่าให้บริการที่ดีตามที่พูดหรือไม่ หรือราคาควรจะมีการตรวจเช็คแต่ละรายพร้อมกันด้วยหรือ ในสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะบอกว่าหากเราจะมองในเรื่องของคุณภาพงาน เราต้องดูที่อะไรเป็นสำคัญแน่นอนว่า รถรับจ้าง ที่จอดให้บริการในเขตพื้นที่ลาดพร้าวนั้นจะมีได้แก่


1. รถกระบะรับจ้างเขตลาดพร้าว ซึ่งต้องบอกว่ามีจำนวนมาก จะมีทั้งแบบกระบะคอกสูงหรือแบบตู้ทึบสแตนเลสซึ่งทั้ง 2 แบบ ต้องบอกว่าลักษณะการใช้งานก็จะมีความแตกต่างกันไปบ้างนิดหน่อยแต่โดยรวมแล้วก็สามารถที่จะขนย้ายสินค้าที่ไม่แตกต่างกัน เป็นเพราะว่า ถึงแม้ รถกระบะคอกสูง จะไม่มีอะไรป้องกันแต่เขาก็จะยังคงมีผ้าคลุมไว้คอยคุมไว้เหนือสินค้าของเรา เพื่อป้องกันฝน ฝุ่น ได้เป็นอย่างดี ความสะดวกสบายของรถกระบะรับจ้างนั่นคือ สามารถเรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่ติดเวลา ไม่ว่าคุณจะอยากย้ายของในช่วงเวลาไหน เขาก็พร้อมที่จะให้บริการคุณเนื่องจากมีรถรับจ้างชนิดนี้จำนวนมากแต่สิ่งสำคัญนั่นก็คือ เราก็ต้องดูว่าผู้ให้บริการมีความน่าเชื่อถือขนาดไหน

2. รถ 6 ล้อรับจ้างลาดพร้าว เราอาจจะเห็นรถจอดที่ริมทางน้อยมาก เนื่องจากว่าลาดพร้าวเป็นเขตที่มีรถติดเป็นจำนวนมากจึงทำให้ไม่สามารถที่จะให้ใครเอารถมาจอดริมถนนลาดพร้าวอย่างแน่นอน ก็จะมีเพียงแค่ป้ายที่บอกว่าให้บริการ รถ 6 ล้อรับจ้าง เท่านั้นแต่ เราจะรู้ได้ยังไงว่ารถ 6 ล้อรับจ้างเหล่านั้น มีคุณภาพเป็นอย่างไรปลอดภัยหรือไม่ เพราะว่างานส่วนใหญ่ที่ใช้ในการ ขนย้ายของรถ 6 ล้อรับจ้างนั้น ก็จะเป็นงานประเภท ขนย้ายบ้าน ขนย้ายคอนโด ขนย้ายสินค้าอุปโภคบริโภค ขนย้ายสินค้าทางการเกษตร หรือบริการขนย้ายทั่วไปที่มีปริมาณมากๆ และสิ่งที่เราให้ข้อมูลและให้คำแนะนำคุณได้ ในครั้งนี้นั่นคือ การหาข้อมูลที่ดีในการที่จะไป


support ในเรื่องของการบริการ รถรับจ้างขนของ เราจะดูได้จากอะไรก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกใช้บริการของผู้ให้บริการนั้นๆ ซึ่งเราได้มีการจัดข้อมูลมาไว้เป็นบางส่วนว่า ผู้ให้บริการรถรับจ้างที่ติดอันดับดี จากโลกโซเชียล ว่ามีผู้ให้บริการที่ถือว่าให้บริการดี ราคาไม่แพง ไม่ว่าจะผ่านทาง Pantip หรือผ่านทาง facebook ของผู้ที่เคยใช้บริการ ต่างๆ

นี่เป็นข้อมูลที่เราได้จาก การศึกษาและการเก็บข้อมูลจากผู้ใช้บริการ และการเข้าไปคอมเม้นใน
facebook ในทวิตเตอร์และในเว็บไซต์ ว่าผู้ให้บริการ รับจ้างขนของเขตลาดพร้าว ในแต่ละรายให้บริการรถรับจ้างเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลต่างๆนี้ เป็นเพียงแค่ข้อมูลพื้นฐานที่ไม่สามารถจะการันตีได้ 100% แต่เป็นเพียงข้อมูลที่เป็นแนวทางในการให้ผู้ให้ ผู้ที่จะมาใช้บริการ รถรับจ้าง ได้มีพื้นฐานข้อมูลเบื้องต้นในการที่จะเลือกใช้ผู้ให้บริการเหล่านี้ อย่างน้อยก็เป็นใช้ในการตัดสินใจเบื้องต้นให้กับลูกค้าในแต่ละคนที่สนใจอยากจะใช้บริการ รถรับจ้างขนของลาดพร้าว ไม่ว่าจะเป็นทั้งงาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้า ขนส่งทั่วไป หรือ ขนของไปต่างจังหวัด ท่านสามารถที่จะโทรเข้ามาสอบถามกับผู้ให้บริการเหล่านี้ได้ หรือหากท่านต้องการอยากจะปรึกษาแนวโน้มราคาค่าขนย้ายในแต่ละจุด ว่าอยู่ที่ราคาเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่เท่าไหร่นั้น ท่านก็สามารถโทรเข้ามาสอบถามได้


เราพร้อมให้บริการข้อมูลดีๆเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการใช้บริการ รถรับจ้างเขตลาดพร้าว ทุกคน

นอกเหนือจากทีมงาน ให้บริการ รถกระบะรับจ้างลาดพร้าว และ รถ 6 ล้อรับจ้างลาดพร้าว แล้ว รถให้บริการอื่นๆที่นอกเหนือจากตรงนี้ก็จะมี รถ 4 ล้อใหญ่รับจ้างลาดพร้าว ซึ่งเป็นรถที่ให้บริการที่มีขนาด ใหญ่กว่ารถกระบะแต่เล็กกว่ารถ 6 ล้อซึ่งเหมาะสำหรับกับผู้ที่ต้องการขนย้ายหอพักหรือขนย้ายบ้านขนาดเล็กที่ไม่สามารถใช้ รถกระบะขนของ แล้วเพียงพอ รถขนาดนี้ก็ไม่ติดเวลาเช่นเดียวกัน มีกระบะที่มีความยาวประมาณ 3 เมตรซึ่งจะยาวกว่ารถกระบะขึ้นมาอีก 1 เมตร มีความกว้างและความสูงที่สามารถบรรจุของได้เพิ่มขึ้น และก็ยังคงมี รถสิบล้อรับจ้างเขตลาดพร้าว รถเฮี๊ยบรับจ้างเขตลาดพร้าว ด้วยเช่นเดียวกันครับ

13
ซ่อมบำรุงอาคาร: พัดลมไอเย็นกับแอร์ ต่างกันอย่างไร
 
ในปัจจุบัน เครื่องใช้ไฟฟ้าถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากของคนในยุคนี้ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ หลายบ้านมีแอร์ใช้ เพื่อทำให้รู้สีกสบาย ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมากในบ้านเรา เชื่อว่า แอร์เป็นสิ่งจำเป็นที่หลายบ้านนิยมใช้กัน แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีหลายบ้านที่เลือกใช้งานเครื่องทำความเย็นชนิดอื่นที่คิดว่า

น่าจะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เพราะเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ หากติดตั้งแล้วจะต้องบำรุงรักษา และต้องเสียค่าไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งเครื่องทำความเย็นที่หลายบ้านก็นิยมใช้กันเช่น พัดลมไอเย็น ก็ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถนำความเย็นมาสู่ร่างกายได้เหมือนกัน

แต่ถ้าหากจะให้เลือกซื้อเลือกใช้ระหว่าง พัดลมไอเย็นและแอร์ ก็ควรจะต้องทราบถึงรายละเอียดของข้อดี ข้อเสียของเครื่องใช้ทั้งสองชนิดนี้เสียก่อน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานที่ วัตถุประสงค์เพื่อช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย ซึ่งเครื่องทำความเย็นทั้งสองชนิดนี้ก็มีความแตกต่างกัน

ซึ่งการเลือกใช้ก็อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละบุคคล โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงเครื่องทำความเย็นทั้งสองชนิดนี้ว่า มีความแตกต่างกันอย่างไร ระหว่างพัดลมไอเย็นกับแอร์ ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายคนให้ความสนใจ เพื่อที่จะนำมาใช้คลายร้อนในช่วงหน้าร้อน
 
ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึง พัดลมไอเย็นก่อนว่า มีการทำงานอย่างไร อย่างแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ พัดลมไอเย็นไม่ใช่พัดลมไอน้ำ แต่เป็นพัดลมที่ทำงานด้วยการดึงเอาความร้อนที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามา เมื่อผ่านแผ่นทำความเย็นด้านใน ขณะที่น้ำสัมผัสกับแผงรังผึ้ง น้ำบนแผ่นก็จะระเหยออกและกลับเปลี่ยนเป็นไอเย็นออกมา

ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิในห้องให้เย็นลงได้ โดยไม่ทำให้บริเวณที่ได้รับความเย็นชนิดนี้รู้สึกฉ่ำหรือมีความชื้นในอากาศ ข้อดี ข้อเสียของพัดลมไอเย็น แม้จะช่วยทำให้อากาศเย็นลงได้ แต่ก็จะต้องใช้แรงลมเป่ามาที่ผู้ใช้ และลมที่พัดมาจะไม่มีละอองหรือความชื้นของน้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนลมธรรมชาติ แต่จะไม่เย็นฉ่ำเท่าการใช้แอร์

เคลื่อนย้ายง่าย สะดวก เหมาะที่จะใช้กับบริเวณที่โล่ง แต่ก็สามารถใช้กับบริเวณสถานที่ที่ปิดไม่มีจุดเปิดโล่งก็ได้ ถ้าเป็นบริเวณพื้นที่ปิด ไม่โล่งโปร่ง แนะนำว่าไม่ควรใช้ต่อเนื่องแบบยาวนาน เพราะอาจเกิดมีเชื้อราเกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังมีเสียงดังอีกด้วย ประหยัดน้ำ เพราะมีน้ำในระบบอยู่แล้ว กินไฟน้อยเท่าพัดลมธรรมดา ช่วยประหยัดค่าไฟได้ การดูแลรักษาทำได้ง่ายกว่าแอร์

ดังนั้น จึงประหยัดค่าบำรุงรักษากว่าแอร์ ในขณะที่การทำงานของแอร์นั้นมีความซับซ้อนมากกว่า โดยทำงานด้วยการใช้คอมเพรสเซอร์ให้ดูดลมร้อนจากภายนอกให้เข้ามา จากนั้นจะใช้น้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็นอัด เพื่อทำให้เกิดลมเย็นเข้าที่ตัวแอร์ เมื่อลมเย็นปล่อยออกมาสู่ภายนอก ก็จะทำให้อุณหภูมิภายในบริเวณนั้นลดลงได้เป็นอย่างดี

ข้อดีและข้อเสียคือ แอร์ให้ความเย็นที่จัด เย็นสบายมากกว่าพัดลม แต่ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูง ดังนั้น จึงเปลืองไฟมากกว่าพัดลมไอเย็น เคลื่อนย้ายได้ยากและด้วยการทำงานที่ซับซ้อน จึงทำให้การบำรุงรักษาทำได้ยากกว่า แต่ข้อดีคือมีมีเสียงเบา
เหมาะในการใช้ในสถานที่ที่ปิด และจะต้องดูขนาดหรือกำลังให้พอเหมาะกับขนาดของพื้นที่ที่จะใช้ให้เหมาะสมอีกด้วย เพราะหากแอร์มีขนาดเล็กเกินไปก็จะทำให้ห้องนั้นๆ มีความเย็นไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น ต้องเลือกอย่างเหมาะสม เพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและทำให้แอร์ทำงานไม่หนัก
 
อย่างไรก็ตามเรามีบริการทำความสะอาด เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้สะอาด สะดวก และถูกสุขลักษณะ มีบริการทำความสะอาดในเขตควบคุมเชื้อ เพราะการทำความสะอาดทั่วไปนั้น ไม่เพียงพอ

จึงต้องมีการทำความสะอาดแบบควบคุมการติดเชื้อเพื่อสุขอนามัยขั้นสูงที่ได้รับมาตราฐานและสามารถป้องกันการแพร่เชื้อได้ รวมไปถึงการทำความสะอาดห้องต่างๆ เป็นการดูแลสุขภาพและความปลอดภัย ของร่างกายอีกทางหนึ่งด้วย เพราะเราอยากให้ทุกคนได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความสะอาด มีบรรยากาศที่ดี รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมที่สบายตาเพื่อให้ได้มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข

14
ซ่อมบำรุงอาคาร: ทำไมถึงมีระบบดับเพลิงในอาคาร

ในปัจจุบันมีอาคารสูง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ หรือแม้แต่อาคารสำนักงานเกิดขึ้นมากมาย  สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ที่มีผู้คนเข้าไปใช้พื้นที่มากมาย และถ้าเกิดอุบัติเหตุจากเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาโดยไม่มีการแจ้งเตือนที่ดี ก็อาจนำความเสียหายมาให้สถานที่นั้นๆโดยเฉพาะการสูญเสียชีวิต ดังนั้น ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้จึงเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่สำคัญสำหรับอาคารต่างๆ นั้นหมายความว่า ในขณะมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นภายในอาคาร


ถ้าเรามีระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ดี จะทำให้เรารู้ถึงจุดเกิดเหตุและแจ้งเหตุรวดเร็วสามารถอพยพผู้ทีอยู่อาศัยออกจากพื้นที่ที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้มากขึ้นจนไม่สามารถอพยพได้ ซึ่งปัญหาที่พบในการใช้งานโดยส่วนหนึ่งคือบุคคลทั่วไปยังไม่ค่อยรู้จักอุปกรณ์ และการใช้งานในระบบนี้ เช่น อุปกรณ์มือดึง เป็นอุปกรณ์ที่ดึงเมื่อต้องการแจ้งเหตุในขณะที่มีเพลิงไหม้เกิดขึ้น แต่บางครั้งมีคนที่ไม่รู้ไปดึง ระบบก็จะแจ้งเหตุแต่ไม่มีเหตุเพลิงไหม้


ถ้าเป็นเช่นนี้บ่อยๆ คนที่อาศัยอยู่หรือทั่วไปก็จะไม่เชื่อมั่นในระบบ และถ้าในกรณีที่มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นจริง ระบบมีการแจ้งเหตุแล้วคนก็อาจจะไม่หนีหรืออพยพได้ เพราะฉะนั้น ในศูนย์การค้า หรืออาคารสถานที่ จึงจำเป็นที่จะต้องมีระบบดับเพลิง เพื่อที่จะได้รับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงระบบดับเพลิงภายในอาคารว่ามีความสำคัญอย่างไร และทำไมจะต้องมีระบบดับเพลิงภายในอาคาร

 
ก่อนอื่นเราจะต้องมารู้จักกับ ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ก่อน ซึ่งเป็นระบบสำหรับแจ้งเตือนเมื่อมีเปลวไฟ หรือเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคาร โดยใช้เซนเซอร์หรืออุปกรณ์ตรวจจับชนิดต่างๆ ตามความเหมาะสม เช่น อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน อุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือผู้ใช้ เป็นต้น ซึ่งระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้นี้จะทำให้ผู้ที่อยู่ในอาคารสามารถรับรู้และแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ป้องกันไม่ให้ไฟไหม้นั้นลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้ สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมต้องมีระบบดับเพลิงหรือสัญญาณเตือนไฟไหม้ในอาคาร
 
อย่างแรกเลยก็คือ ช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน ถือเป็นเหตุผลแรกและเหตุผลหลัก ที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการติดตั้งระบบดับเพลิง เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ทุกครั้ง มักจะเกิดการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย


ซึ่งจะต้องติดตั้งระบบดับเพลิง และระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงจะต้องมีการฝึกซ้อมการใช้งาน และการอพยพ หนีภัย เป็นประจำ และมีการซ่อมบำรุง ตรวจสอบระบบดับเพลิงและระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้า พนักงาน และชุมชนรอบข้าง


ดังนั้น ระบบดับเพลิงในอาคารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของอาคารควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกถึงความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ในอาคารเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ การส่งสัญญาณเตือนภัยและระบบควบคุมเพลิง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่แม้ว่าโอกาสเกิดเพลิงไหม้จะมีน้อย แต่ก็มีโอกาสเกิดและสร้างความเสียหายได้อย่างมาก หากไม่มี ระบบดับเพลิงในอาคารนั้น อาจจะส่งผลเสียและความสูญเสียเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่อติดตั้งระบบดับเพลิงในสมัยนี้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอย่างที่คิดและไม่ได้กินพื้นที่ในอาคารมากนัก เรียกได้ว่า ลงทุนครั้งเดียวแต่ได้ระบบความปลอดภัยที่ดีในระยะยาว เพื่อรักษาทั้งชีวิตและทรัพย์สินเมื่อเกิดเพลิงไหม้ได้

 
ดังนั้น หากเจ้าของอาคารต้องการที่จะติดตั้งระบบดับเพลิงหรือสัญญาณเตือนเกิดเหตุไฟไหม้ สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ เพราะเราเป็นผู้ให้บริการติดตั้งระบบดับเพลิง บำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคาร โดยให้บริการจัดการแบบครบวงจร โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและช่างเทคนิคเฉพาะทาง ที่มีประสบการณ์การทำงาน บำรุงรักษาระดับมืออาชีพ สามารถออกแบบวางแผนการบำรุงรักษาอาคาร รวมถึงการวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกันที่เป็นไปตามมาตรฐานทางวิศวกรรม
เพื่อให้ผลการบริหารจัดการของอาคารที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ความปลอดภัยให้กับผู้ใช้อาคาร เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัยของสถานที่เป้นหลัก จึงสามารถให้บริการได้อย่างเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน

15
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


หน้า: [1] 2 3 ... 51