เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟันและต้องเข้ารับการแก้ไขด้วยการจัดฟันเด็กได้ไหมถูกต้องครับ! หากเด็กมีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟัน เช่น ฟันบิด ฟันซ้อนเก ฟันห่าง หรือมีรูปร่างฟันที่ผิดปกติ สามารถเข้ารับการแก้ไขด้วยการจัดฟันในเด็กได้ครับ
การจัดฟันในเด็ก หรือที่เรียกว่า "ทันตกรรมจัดฟันสำหรับเด็ก" (Pediatric Orthodontics) มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและโครงสร้างขากรรไกรที่ผิดปกติ โดยมักจะเริ่มทำในช่วงที่เด็กยังมีฟันน้ำนมอยู่บ้างและฟันแท้กำลังทยอยขึ้น (ประมาณ 7-10 ปี) หรือเมื่อฟันแท้ขึ้นครบแล้ว (ประมาณ 11-13 ปี) ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน
ปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟันที่การจัดฟันช่วยแก้ไขได้:
ฟันซ้อนเก (Crowding): ฟันขึ้นเบียดกัน ไม่มีพื้นที่เพียงพอ ทำให้ฟันซ้อนทับกัน
ฟันห่าง (Spacing): มีช่องว่างระหว่างฟันมากเกินไป
ฟันยื่น (Protrusion/Overjet): ฟันหน้าบนยื่นออกมามากเกินไป
ฟันล่างคร่อมฟันบน (Underbite): ฟันล่างยื่นออกมาคร่อมฟันบน
ฟันสบคร่อม (Crossbite): ฟันบนสบอยู่ด้านในของฟันล่าง
ฟันสบเปิด (Open Bite): ฟันหน้าบนและล่างไม่สบกันเมื่อกัดฟัน
ฟันบิด/หมุน (Rotation): ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง หรือบิดหมุนไปจากแนวปกติ
ฟันฝัง (Impacted Teeth): ฟันแท้ไม่สามารถขึ้นมาในช่องปากได้ตามปกติ
ประโยชน์ของการจัดฟันเพื่อแก้ไขรูปร่างฟันในเด็ก:
แก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ: การจัดฟันในช่วงที่เด็กกำลังเจริญเติบโตจะช่วยปรับโครงสร้างขากรรไกรและทิศทางการขึ้นของฟันได้ง่ายกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าการรอให้โตแล้วค่อยจัด
ลดความซับซ้อนของการรักษาในอนาคต: การแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่เด็ก อาจช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหารุนแรงขึ้นจนต้องใช้วิธีการรักษาที่ซับซ้อน หรืออาจต้องผ่าตัดในอนาคต
ปรับปรุงการบดเคี้ยว: ฟันที่เรียงตัวเหมาะสมจะช่วยให้เด็กบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร
ช่วยในการทำความสะอาด: ฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบจะทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงฟันผุและโรคเหงือก
เสริมสร้างความมั่นใจ: รูปร่างฟันที่สวยงามขึ้นจะช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในรอยยิ้มและบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการทางสังคมและจิตใจ
ดังนั้น หากคุณสังเกตเห็นว่าลูกมีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟัน ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดครับ
%20TPCC2.jpg)
.png){kind=logo}
